“ภูกระดึง” ฟ้ามัวยามเช้า นอนชิล ๆ อยู่กับบ้าน………
วันที่ 3 ของทริปฤดูร้อนนี้ต้องมี “ภูกระดึง”
ผมพยายามจะไม่ขี้เกียจในการไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น แม้ว่าบรรยากาศมันจะน่านอนต่อขนาดไหนก็ตาม วันนี้ผมไปผมนกแอ่นคนเดียว เติ้ลกับมุ้ยเดินไม่ไหวแล้ว เมื่อวานบอบช้ำมาก เดิน 22 กิโลเมตรใน 1 วัน ส่วนตั้มกับพีจะต้องกลับลงไปกรุงเทพแล้วนอนพักยาวๆ เตรียมลงภูแล้วขับรถกลับกรุงเทพเลย ผมไปที่จุดนัดพบตอนตี 5 เช่นเคยแล้วเดินไปพรัอมเจ้าหน้าที่กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ วันนี้จุดชมวิวดูมืดครึ้ม มีหมอกมาบังทั้งบนและล่าง ทิวทัศน์ไกลๆ ไม่เคลียร์สักเท่าไร แต่น่าจะได้พระอาทิตย์ขึ้นดวงกลมโตอยู่ ผมเดินไปยังจุดประจำคือสนรูปตัววี ก๊ะวันนี้ให้พระอาทิตย์อยู่กลางตัววีเลยละกัน และก็ไม่พลาดได้ดวงอาทิตย์ดวงโตกลมแดงเลยทีเดียว จริงๆ ถ้าอยากได้ดวงอาทิตย์ดวงโตมากๆ จะต้องใช้ Telephoto ถ่ายจากระยะไกล แต่ว่าผมมีแค่ 120 เทียบกับ 95 มม.เท่านั้นเอง จะเอาโตใหญ่อลังการคงไม่ได้ เลนส์จำกัดต้องยอมรับสภาพตัวเองไป
วันนี้มีเมฆครึ้มแต่ฝนไม่ตกจริง ๆ สภาพอากาศแบบนี้เหมาะกับการถ่ายภาพมาโครอย่างมาก ผมชอบถ่ายภาพมาโครนะ แต่แบบถ่ายใกล้มาก จ่อติด ๆ แล้วใช้แฟลชเป็นหลัก
กลับมาที่พัก ตั้มกับพีเตรียมเดินทางกลับละ คืนนี้เรายังนอนบ้านพักอีก 1 คืน พรุ่งนี้จะต้องไปนอนเตนท์ละ วันนี้มีเมฆครึ้มแต่ฝนไม่ตก จริงๆ สภาพอากาศแบบนี้เหมาะกับการถ่ายภาพมาโครอย่างมาก ผมชอบถ่ายภาพมาโครนะ แต่แบบถ่ายใกล้มาก จ่อติดๆ แล้วใช้แฟลชเป็นหลัก กล้อง Medium ไม่เหมาะกับงานมาโครอัตราขยายสูงมาก เพราะว่าเซ็นเซอร์ใหญ่ ถ่าย 1:1 ขนาดวัตถุก็ยังใหญ่แล้วช่วงความชัดลึกน้อยมาก ใช้ภาคสนามหืดจับถ้าเจอวัตถุเคลื่อนไหว แต่ถ้าเซ็ทอัพถ่ายนี่กินขาดเพราะคุณภาพเซ็นเซอร์และคุณภาพเลนส์เองด้วย รอแฟลช TTL Wireless ออกมาให้พร้อมก่อนค่อยเอา GFX มาลุยถ่ายมาโครจริงจังสักที ผมดูพยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้ฝนจะตกตั้งแต่เช้า พอได้เวลาฝนมาตามพยากรณ์อากาศก็เงียบเชียบ ไม่มีฝนสักเม็ด ฝนตกเป็นอะไรที่ชี้ชะตาการถ่ายภาพ “ภูกระดึง” หน้าร้อนมาก
ถ้าฝนตกเป็นบริเวณกว้างหนัก ๆ ต่อเนื่องกันสักสองสามวัน จะมีทั้งน้ำตก มีทะเลหมอก มีหมอกไหลเข้าป่าสน ได้ฟ้าระเบิดช่วงเช้าเย็น และมีทากเพียบ ได้บรรยากาศภูกระดึงเร้าใจแน่นอน
ถ้าไม่มีฝนภูกระดึงจะง่อยมาก ไม่มีหมอก ไม่มีน้ำตก ไม่มีทะเลหมอก ไม่มีเมฆปุย ๆ ในช่วงกลางวัน นอนอยู่บ้านดีกว่า แต่ถ้าฝนตกเป็นบริเวณกว้างหนัก ๆ ต่อเนื่องกันสักสองสามวัน จะมีทั้งน้ำตก มีทะเลหมอก มีหมอกไหลเข้าป่าสน ได้ฟ้าระเบิดช่วงเช้าเย็น และมีทากเพียบ ได้บรรยากาศภูกระดึงเร้าใจแน่นอน ผมตั้งใจอยู่ภูกระดึงประมาณ 7 วันเพื่อรอฝนโดยเฉพาะ ถ้าไม่ได้ก็อยู่จนถึงที่สุดไปเลย วันนี้ผมไม่ได้จะไปไหนเป็นพิเศษเพราะบรรยากาศมันบอกว่าให้นอนอยู่บ้านเถอะ พอเย็นก็เอานะ เดินไปผาหมากดูกสักหน่อย ฟ้าปิด มืดครึ้ม ไม่มีอะไรเลย เดินกลับบ้านด้วยความสบายใจอย่างแรง
ฝนเบาๆ แดดจางๆ น้ำตกนุ่มๆ กับแสงเช้าอันอบอุ่น………
เป็นธรรมเนียมของทุกวันที่เราจะต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น เติ้ลกับมุ้ยได้พักเต็มๆ 1 วัน วันนี้พอจะเดินไหวละ วันที่ 4 ของทริปเราเลยเดินไปผานกแอ่นกันทั้งทีม ส่วนนักท่องเที่ยวอื่นๆ มีประมาณสัก 10 คนได้ วันนี้มีลุ้นหมอกสวยเพราะเมื่อคืนฝนตกมาบางๆ เราเดินไปถึงผานกแอ่นก็ โอ้ว..ว้าว..วันนี้สวยจริง แต่สวยแบบ ด้านบนเป็นเมฆครึ้ม ส่วนด้านล่างเปิดช่องให้แสงส่องลงมา เช้าวันนี้ภาพเลยสวยเป็นพิเศษ จะอารมณ์เหงาๆ หน่อยแต่ผมชอบนะ มันเหมาะกับการถ่ายภาพคู่กับวิวเป็นอย่างมาก ผมก็ยังถ่ายภาพแบบเดิมในมุมเดิมความแตกต่างอยู่ที่บรรยากาศของวิวด้านหน้าเท่านั้นเอง ถ่ายภาพจนพระอาทิตย์ขึ้นสูงลับไปที่เมฆด้านบนเราก็เดินทางกลับไปยังที่พักเพื่อเตรียมเดินไปเส้นน้ำตก ต้องเตรียมอาหารเที่ยงกับน้ำดื่มไปให้พอสำหรับกลับมาประมาณบ่าย 3 ผมเองไม่ค่อยหิวเวลาเที่ยง เช้ากินข้าวให้เต็มที่ เที่ยงก็กินแสน็คสักสองอันพอ ขี้เกียจแบกข้าวไป หนักกระเป๋า
หลังน้ำตกจะเป็นโพรงถ้ำเล็กๆ มุมตรงนี้ภาพจะสวยเวลามีน้ำ แต่ตอนนี้น้ำน้อยมาก ผมเลยถ่ายภาพพาโนถ้ำกับวิวด้านนอกเอาไว้ก่อน แล้วรอน้ำเยอะอีกทีค่อยกลับมา
เราเริ่มจากที่น้ำตกวังกวางก่อน ทางเดินอยู่ทางด้านร้านอาหารนี่เอง น้ำยังไม่เยอะแม้ว่าฝนจะตกต่อเนื่องมาหลายวันก็ตาม ดูจากระดับน้ำลำธารที่ไหลมาจจากสระน้ำยังไม่สูงนัก ทางเส้นนี้ทากเยอะหน่อย เตรียมกันทากไปให้ดีก็แล้วกันนะ ประมาณสัก 15 นาทีเราจะเดินถึงด้านบนน้ำตกวังกวาง ไต่ลงไปด้านล่างมุมจะสวยกว่า หลังน้ำตกจะเป็นโพรงถ้ำเล็กๆ มุมตรงนี้ภาพจะสวยเวลามีน้ำ แต่ตอนนี้น้ำน้อยมาก ผมเลยถ่ายภาพพาโนถ้ำกับวิวด้านนอกเอาไว้ก่อน แล้วรอน้ำเยอะอีกทีค่อยกลับมา
จากวังกวางสามารถเดินต่อไปยังน้ำตกอื่นๆ ได้เลยเป็นเส้นวงรอบ จะไปยังน้ำตกโผนพบ เพ็ญพบใหม่ แล้วก็น้ำตกถ้ำใหญ่ได้ แต่ผมดันหาเส้นทางไปไม่เจอ เลยต้องย้อนกลับแล้วเดินไปทางพระพุทธเมตรก่อน แล้วไปน้ำตกถ้ำใหญ่อีกที ช่วงนี้เดินไกลหน่อย ที่น้ำตกถ้ำใหญ่น้ำไม่มากนัก ปริมาณกำลังสวย ผมถ่ายภาพเป็นพาโนรามา ใช้ฟิลเตอร์ ND64 กับ PL ตัดแสงสะท้อน ลากน้ำให้นุ่มๆ ช่วยได้เยอะเลย
เดินไปได้กลางทางก็เอ๊ะ น้ำขังในผ้ากันฝนแล้วย้อนเข้าไปในกระเป๋ากล้องอีกที เรื่องยาวละทีนี้ ก้นกระเป๋ากล้องเลยน้ำเจิ่งนองไปหมด ดีที่กล้องและเลนส์เป็น WR ฝ้าเลยไม่ขึ้นด้านใน
จากถ้ำใหญ่ว่าจะเดินไปทางน้ำตกเพ็ญพบใหม่กับโผนพบแล้วกลับเข้าที่พัก เผอิญมุ้ยขาแพลงเดินต่อไม่ไหวเลยต้องให้กลับที่พักไปพร้อมกับเติ้ล ส่วนผมเปลี่ยนแพลนเดินไปที่ผาหมากดูกต่อเพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์ตก เดินไปได้ไม่ถึงครึ่งทางฝนตกกระหน้ำลงมา ผมเลยต้องเดินลุยฝนไปทั้งแบบนั้น เอาผ้าคลุมกันฝนกระเป๋ากล้องคลุมกระเป๋ากล้องเอาไว้ เดินไปได้กลางทางก็เอ๊ะ น้ำขังในผ้ากันฝนแล้วย้อนเข้าไปในกระเป๋ากล้องอีกที เรื่องยาวละทีนี้ ก้นกระเป๋ากล้องเลยน้ำเจิ่งนองไปหมด ดีที่กล้องและเลนส์เป็น WR ฝ้าเลยไม่ขึ้นด้านใน แต่ตัวที่ไม่เป็น WR เรียบร้อยหมด ฝ้าขึ้นเพราะชื้นหนักมาก