ลุยถ่ายน้ำตก ไปให้สุดทาง………
วันที่ 5 ของทริป “ ภูกระดึง ”
เติ้ลกับมุ้ยเดินทางกลับละ ส่วนผมอยู่ต่อเพราะอยากเก็บภาพน้ำตกกับหมอกให้ได้อย่างที่อยากได้ซะก่อน เช้าผมออกไปถ่ายภาพเช้าที่ผานกแอ่นเหมือนเคย แต่ว่าวันนี้แห้ว ไปถึงบรรยากาศกำลังสวยเชียว แต่มีเมฆกลุ่มใหญ่เข้ามา กำลังตั้งกล้องลุ้นๆ ว่าจะทันฝนไหม ซึ่งก็นั่นละ ไม่ทัน ฝนเทกระหน่ำลงมาแบบหนักหน่วงมาก วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะเพราะเป็นวันหยุด แต่เยอะอย่างไรก็ไม่เกิน 20 คนเท่านั้น เราหนีไปหลบฝนกันที่อาคารใกล้ๆ ผา กว่าชั่วโมงฝนจึงซาลง ผมเดินกลับที่พัก เติ้ลกับมุ้ยเตรียมตัวลงละ ผมบอกลาน้องๆ (ลาชั่วคราวนะไม่ได้ลาชั่วชีวิต)
แล้วไปน้ำตกอีกรอบ โดยรอบนี้ไปวังกวางก่อน เดินผ่านลำธารด้านหลัง น้ำเต็มเปี่ยมมาก น้ำตกสวยแน่นอน เดินทะลุดงทากไปน้ำตกวังกวาง คราวนี้คนละเรื่องกันละ วันก่อนน้ำนิดเดียว วันนี้น้ำเต็มหน้าผาเลย ผมต้องค่อยๆ ไต่ลงไปอย่างระวังมากเป็นพิเศษ เพราะหินเปียกมีโอกาสลื่นสูง ที่ต้องระวังมากกว่าคือฝูงทากที่รอต้อนรับตลอดทาง ผมปีนลงไปด้านในเหมือนเดิมแต่คราวนี้ถ่ายไมได้เพราะละอองน้ำฟุ้งมาก ต้องปีนออกไปด้านนอกแล้วเดินไปตามลำธารเพื่อหามุมใหม่ มีลำแสงลอดมาเป็นลำด้วย ต้องถ่ายทำ Stack ด้วยไม่อย่างนั้นชัดลึกไม่พอ ถ่ายภาพไปแกะทากไปด้วย แล้วก็เดนทางต่อไปยังน้ำตกเพ็ญพบ
น้ำตกโผนพบจะถ่ายยากสักหน่อยนะ ตัวน้ำตกด้านบนมักโดนแสง ด้านล่างจะทึบแสงมาก เวลาถ่ายภาพต้องถ่ายช่วงไม่มีแดด ให้ฟ้าครึ้มๆ หน่อยจะช่วยบาลานส์แสงได้ดีกว่า ผมเดินเลาะลำธารไปหน่อยจะได้มุมฉากหน้าเป็นลำธารไหลมาแล้วเห็นน้ำตกเป็นฉากหลัง มีต้นไม้เล็กๆ ในลำธาร แต่มุมนี้ต้องถ่ายภาพทำ Stack ด้วยไม่อย่างนั้นชัดลึกไม่พอ แล้วแสงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเล่นยากอยู่เหมือนกัน ต้องรอแสงให้เสมอเท่ากันก่อนถึงจะถ่ายทั้งชุดได้ บางทีถ่ายๆ อยู่แสงเปลี่ยนก็ต้องถ่ายใหม่ ยุ่งพอควร ใช้เวลาสักเกือบ 30 นาทีในการถ่ายภาพที่จุดนี้
ผมเดินเลาะลำธารไปหน่อยจะได้มุมฉากหน้าเป็นลำธารไหลมาแล้วเห็นน้ำตกเป็นฉากหลัง มีต้นไม้เล็กๆ ในลำธาร แต่มุมนี้ต้องถ่ายภาพทำ Stack ด้วยไม่อย่างนั้นชัดลึกไม่พอ
ผมก็เดินทางต่อไปยังน้ำตกเพ็ญพบซึ่งน้ำตกเพ็ญพบเป็นน้ำตกกว้างแต่ไม่สูง ระหว่างทางผมผ่านลำธารที่เป็นลานหิน จำได้ว่าผมเคยมาหยุดกินข้าวกลางวันกันที่ตรงนี้ รอบนี้ก็หยุดพักตรงนี้เหมือนกัน ผมสังเกตุเห็นน้ำในแอ่งหมุนเป็นวงกลม เลยจัดไปสัก 1 ภาพ ใช้ ND1000 เปิดรับแสงนานประมาณ 30 วินาที แต่ต้องถ่ายภาพเป็น Stack ด้วยเพราะชัดลึกไม่พอเหมือนเช่นเคย ถ่ายภาพตรงนี้เพลินมากเพราะไม่มีทากมากวนใจ แล้วก็เดินฝ่าดงท่ากต่อไปยังน้ำตกถ้ำใหญ่
ถึงถ้ำใหญ่รอบนี้น้ำมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว ผมเดินจากด้านล่างขึ้นมาน้ำตีเป็นละออง ทำให้ได้ลำแสงสาดมาที่ด้านหน้าด้วย ผมเก็บลำแสงแล้วเดินไปที่ด้านบนน้ำตกอีกครั้งโดยยังใช้วิธีการกับเทคนิคเดิมแบบวันก่อน แค่ปริมาณน้ำไม่เท่ากัน กับมีทากเยอะขึ้นเท่านั้นเอง เสร็จจากน้ำตกถ้ำใหญ่ เวลามีเหลือเฟือ ผมเดินกลับไปที่พักแล้วไปยังผาหล่มสักอีกรอบเพื่อถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกเหมือนเคย ซึ่งก็ฟ้าม่ได้สวยนัก วันนี้เลยเดินกันอ่วมเลยละ
ทะเลหมอกที่ผานกแอ่น พักชิลๆ กับพระอาทิตย์ตกที่ริมน้ำ
วันนี้พีคมาก ทะเลหมอกด้านหน้าเยอะและแทบเต็มมาชนภูกระดึงเลย ทำให้วันนี้ได้ทะเลหมอกสมใจอยาก แถมแสงสาดมาได้สวยซะด้วย ได้ทั้งรายละเอียดเมฆ สีท้องฟ้า อะไรจะโชคดีขนาดนั้น
วันที่ 6 ตอนเช้าผมตื่นมาถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นเช่นเคย แต่ว่าวันนี้พีคมาก ทะเลหมอกด้านหน้าเยอะและแทบเต็มมาชนภูกระดึงเลย ทำให้วันนี้ได้ทะเลหมอกสมใจอยาก แถมแสงสาดมาได้สวยซะด้วย ได้ทั้งรายละเอียดเมฆ สีท้องฟ้า อะไรจะโชคดีขนาดนั้น แถมแทบจะไม่มีคนมาถ่ายภาพ อยากได้มุมไหนก็ถ่ายได้ไม่ต้องรอเลย ผมถ่ายภาพทั้งพาโนรามา มุมด้านหน้า มุมต้นสนรูปตัว V แล้วตบท้ายด้วยภาพตัวเองเหมือนเคย
พอสายๆ ผมเดินไปผาหล่มสักอีกรอบเพื่อรอพระอาทิตย์ตก แบบว่าไม่ได้ไปไหนแล้ว น้ำตกก็ได้แล้ว อย่างอื่นก็ได้อย่างที่อยากได้หมดแล้ว ผมเลยเดินพกเลนส์มาโครไปถ่ายภาพมาโครเล่นๆ เลนส์มาโครของ GFX จะได้อัตราขยายที่ 1:2 พอเป็น Medium Format ขนาดวัตถุมันจะไม่เล็กมากนัก อย่างอัตราส่วน 1:2 ขนาดวัตถุก็อยู่ที่ 66×88 มิลิเมตรถึงจะถ่ายภาพเต็มเฟรมได้ ถ่ายดอกไม้ไม่มีปัญหา แต่เจอแมลงตัวเล็กๆ จะอัตราขยายภาพไม่มากพอ เวลาถ่ายสิ่งของเล็กมากๆ จะต้องใช้เลนส์มาโครต่อกับเบลโลว์อีกทีหนึ่งซึ่งยุ่งอยู่พอสมควร เหมาะกับการถ่ายภาพในสตูดิโอมากกว่า
ถ่ายดอกไม้ไม่มีปัญหา แต่เจอแมลงตัวเล็กๆ จะอัตราขยายภาพไม่มากพอ เวลาถ่ายสิ่งของเล็กมากๆ จะต้องใช้เลนส์มาโครต่อกับเบลโลว์อีกทีหนึ่ง
ผมถ่ายมาโครได้ไม่เยอะนักเพราะเจอปัญหาลมพัด ชัตเตอร์ 1วินาทีมีแต่เบลอ ก็เลยยอมแพ้ จุดสวยในการถ่ายมาโครส่วนมากก็จะเป็นดงทากซะด้วย อันนี้เลยยอมยกธงเลย
วันนี้ผมแทบจะไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก เย็นๆ ก็เดินไปที่สระน้ำเพื่อหามุมถ่ายภาพน้ำตก สระน้ำมีน้ำเยอะมากไหลมาทางน้ำตกวังกวาง ต้นน้ำตกวังกวางก็คือสระน้ำแห่งนี้นี่ละ สภาพโดยรอบสระน้ำเปลี่ยนไปมาก ต้นไม้รอบสระโตขึ้นจนจากทางเดินมองไม่เห็นสระแล้ว ผมรอจนพระอาทิตย์ตกได้ภาพริมสระน้ำ โอ้วว้าว วันนี้โชคดีฟ้าสวยมาก แต่ว่ามุมฉากหน้ายังไม่ได้อย่างที่ต้องการนัก มองไปรอบๆ สระน้ำก็ไม่มีจุดตั้งกล้องที่อยากได้เลย ก็เอาแนวสนเป็นฉากหน้านี่ละง่ายดี
ฟ้าระเบิดอำลา………
วันนี้ผมกบฏไม่ไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกทีผานกแอ่น ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่มีใครไปผานกแอ่นกันด้วยนะ เพราะฝนหยุดมาสองวันแล้ว คงไม่มีหมอกให้ถ่ายช่วงเช้าแน่ๆ ผมตื่นมาตี 5 ไปตั้งกล้องรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมสระ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก มีเมฆเป็นแนวเส้นอย่างสวยแถมแดงแป้ดๆ เพราะฟ้าระเบิด ผมนี่ถ่ายเพลินเลย จัดเป็นพาโนรามาทั้งเซ็ท ถ่ายตั้งแต่เมฆแดงสดยังสีซีดเลย เป็นการถ่ายภาพยามเช้าที่สะใจยิ่งนัก ถ่ายเสร็จน้องๆ อีกกลุ่มหนึ่งเดินมา(ตื่นสาย) ละครปิดฉากพอดี อดได้ฟ้าระเบิด
เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก มีเมฆเป็นแนวเส้นอย่างสวยแถมแดงแป้ดๆ เพราะฟ้าระเบิด ผมนี่ถ่ายเพลินเลย
วันนี้ผมเดินทางกลับกรุงเทพละ เก็บข้าวของให้ลูกหาบแล้วเดินลง แบบว่ากึ่งวิ่งกึ่งเดิน โดดไปโดดมาตามหิน ใช้เวลาลงภูกระดึง 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้นเอง ไว้มาก แบบว่าอยากลองลงไวๆ โดยไม่วิ่งดูว่าจะไปได้เร็วแค่ไหน ลงมาถึง กรรมต้องรอลูกหาบอีกตั้งนาน เกือบสองชั่วโมงได้ ผมอาบน้ำแต่งตัวแถมนอนหลับไปอีกตื่นลูกหาบถึงจะมาพอดี เป็นการจบทริปภูกระดึงที่รอคอยมานานอย่างสมใจ ได้ทั้งทะเลหมอก ทั้งหมอกในป่าสน น้ำตก พระอาทิตย์ ขาดก็แต่ทุ่งดอกเอนอ้าแบบเต็มๆ พื้นที่เท่านั้นเอง ไว้ปีหน้ามาใหม่ช่วงเดือนพฤษภาคมก่อนปิดภูกระดึง ใครอยากมาก็ฟิตร่างกายเอาไว้เลยนะครับ ปีหน้าเจอกันแน่นอน
