การถ่ายวิดีโอด้วยกล้อง Fujifilm ตอน อุปกรณ์ในการถ่ายวิดีโอ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายวิดีโอมีเยอะมากๆ แต่กล้องกล้วยกล้วยพยายามใช้ให้น้อยที่สุดเพื่อให้กองถ่ายเล็กกะทัดรัด ทำงานง่ายและรวดเร็ว กล้องที่เหมาะกับการถ่ายวิดีโอของ Fujifim ก็จะมีรุ่น Fujifilm X-H1, Fujifilm X-T2, Fujifilm X-T20, Fujifilm X-E3, Fujifilm X-A5 ซึ่งส่วนมากจะเป็นกล้องตัวรุ่นใหม่
กล้อง Fujifilm X-H1
- ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถ่ายวิดีโอ
- ให้วิดีโอ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มีบิทเรตที่สูงมาก เอาไปใช้เป็นต้นฉบับในการตัดต่อได้เลย
- มีระบบลดการสั่นไหว
- จอพับได้
- สามารถใส่แบตเตอรี่ได้ 3 ก้อน ทำให้อยู่ได้นาน
- ใส่หูฟัง และเสียบไมค์ในตัวกล้องได้ ได้เสียงที่เป็นคุณภาพสูง
- มีการระบายความร้อนที่ดี
- ถ่าย F-Log ลงการ์ดได้ ทำให้เราสามารถเก็บช่วงความสว่างของแสงได้เยอะมากแล้วมาเกรดสีทีหลัง
- ระบบควบคุมแสงค่อนข้าง perfect เหมือนภาพนิ่ง
กล้อง Fujifilm X-T2
- มีความละเอียดสูง ถ่าย 4K 30 เฟรมต่อวินาที
- มีโหมด F-Log
- สามารถควบคุม dynamic range ได้แบบเดียวกับ Fujifilm X-H1
- ระบบโฟกัสดี คุมสี คุมแสง ได้ดี
สิ่งที่แตกต่างออกจาก Fujifilm X-H1 ก็คือ Fujifilm X-T2 ไม่มีระบบลดการสั่นไหวที่ตัวบอดี้
กล้อง Fujifilm X-T20 / Fujifilm X-E3
- สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
- เหมาะสำหรับทั้งถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
- ราคาประหยัด ลงทุนน้อย
- มีขนาดเล็กเบา ทำให้คล่องตัว
- เหมาะสำหรับเริ่มต้นทำ content video
ข้อเสียเปรียบ คือ ไม่มีระบบกันสั่น, ไม่มีโหมดสี F-Log
กล้อง Fujifilm X-A5
- สามารถถ่ายวิดีโอ Full HD ได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
- ถ่าย 4K ที่ 15 เฟรมต่อวินาที
- สามารถโฟกัสต่อเนื่องในการถ่ายวิดีโอได้ แต่ประสิทธิภาพจะไม่เท่าตัวอื่นๆที่กล่าวมา
- เป็นทางเลือกที่ประหยัดที่สุด
เลนส์
เลนส์ที่ใช้ในการถ่ายงานวิดีโอของกล้องกล้วยกล้วยจะใช้หลักๆอยู่ 2 ตัว คือ Fujinon XF 56mm F/1.2 R, Fujinon XF 23mm F/1.4 R และยังมีอีกสองตัวที่ใช้แต่ไม่ได้หนักมากเท่าสองตัวแรกคือ Fujinon XF 16mm F/1.4 R WR, Fujinon XF 35mm F/1.4 R ซึ่งทั้งสี่ตัวให้มิติภาพที่ดีมาก
อุปกรณ์ประกอบ
นอกจากกล้องกับเลนส์แล้วที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ แบตเตอรี่รุ่น NP-W126s ถ้าใช้รุ่นที่ต่ำกว่านั้น พลังงานในการถ่าย 4K อาจจะไม่พอ (ควรใช้แบตเตอรี่แท้) ถ้าเราถ่ายอยู่กับที่แล้วมีๆฟฟ้าอยู่ตรงนั้น เราสามารถเสียบหม้อแปลงได้ ถ้าเป็น Fujifilm X-H1 กับ Fujifilm X-T2 สามารถเสียบหม้อแปลงเข้าตัว grip ได้เลย ทำให้ถ่ายวิดีโอกันได้ยาวๆเลย หรือเราอาจจะใช้ powerbank ที่เป็น 12-15 โวลต์ ก็เสียบช่องที่เป็น DC Output ออกมาแล้วเสียบเข้าตัวกล้องทำให้ใช้ได้ยาวนาน เพราะแบตเตอรี่มีถึง 30,000 มิลลิแอมป์ โดยเสียบเข้าที่ช่อง AC Adapter
ต่อมาคือ การ์ดเก็บข้อมูล ซึ่งต้องใช้เป็น UHSII หรือ UHSI ก็ได้ แต่ว่าต้องเป็น U3 เราะว่า U3 จะรองรับสปีดการเขียนของตัว 4K ได้ และควรจะมีสปีดการ write ต่อเนื่องที่ดีกว่า 60MB/Sec ขึ้นไป อันนี้คือต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นเวลาซื้อจริงๆ ถ้าเป็น UHSI ควรซื้อ read/write ที่ประมาณ 90MB/Sec ขึ้นไป แต่ว่าถ้าเป็น UHSII จะประมาณ 90MB/Sec ขึ้นไป การ์ดเก็บข้อมูลสำคัญมาก ถ้าไม่ดีพอ เวลาถ่ายวิดีโอกล้องจะตัด หรือบางทีจะไม่ได้บันทึกเลย
ระบบเสียง
ระบบเสียงส่วนใหญ่ ถ้าเป็นการถ่าย content ที่มีการพูด แล้วก็ไม่ได้เน้นเสียงแบบคุณภาพที่สูงมากๆ เราจะใช้ไมค์ wireless โดยเหน็บไว้ที่ตัว แล้วเอาตัวรับสัญญาณติดไว้ที่กล้อง แล้วก็ record ผ่านตัวกล้องได้เลย ในรุ่นของ Fujifilm X-H1 ระบบเสียงจะดีมาก เป็น High Resolution ซึ่งไม่จำเป็นที่ต้องพึ่งพา External Recorder เลย แต่ถ้าต้องการ external recorder ก็จะมีตัว Zoom ซึ่ง record ได้ดี
Atomos (External Recorder)
สำหรับคนที่ต้องการบันทึกงานที่คุณภาพสูงสุดๆ แนะนำให้ใช้ตัว Atomos ซึ่งจะมีตัว Hard Disk ใส่เข้าไป แล้วก็จะเป็นตัว record video โดยที่เราเสยบสาย HDMI จากตัวกล้องเข้ามาที่ Atomos แล้วก็ record ซึ่งเวลา record ด้วย atomos จะอยู่ในฟอร์แมตที่คุณภาพสูงคือฟอร์แมต 4:2:2 เพราะเวลา record ในกล้องมักจะเป็นฟอร์แมต 4:2:0 ซึ่งอัตราเวลา record บน atomos จะสูงมากประมาณ 400MB/Sec ขึ้นไป ข้อดีของ atomos อีกอันคือ เราสามารถดูการ grading สี เช็คแสงอะไรต่างๆล่วงหน้าได้
สาย HDMI
ตัวสาย HDMI ถ้าเราใช้ external recorder หรือว่าจะเล่นภาพดูทางโทรทัศน์ ทางมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ เวลาที่เราเช็ตตุณภาพงาน ต้องใช้สายมอนิเตอร์ที่มีคุณภาพสูง ใช้สายที่รองรับ 4K ที่สำคัญสายนี้ต้องมีความทน เพราว่าสายเสียบแล้วไม่ได้อยู่แค่นั้นต้องถอดเข้าถอดออก ใช้งานตลอดเวลา ทำให้บางทีเสียได้
Gimbal
อุปกรณ์ที่ใช้บ่อยอีกอันนึงก็คือ Gimbal ซึ่งใช้ในการลดการสั่นไหวของกล้อง ซึ่งจริงๆกล้องอย่าง Fujifilm X-H1 ก็มีตัวลดการสั่นไหวอยู่ในตัวกล้อง แต่ไม่สามารถที่จะเคลื่อนขึ้นลง ไปซ้ายไปขวาได้แบบเร็ว จะได้แค่นิดๆหน่อยๆ แต่ถ้าเป็น gimbal จะเคลื่อนที่ไปได้เยอะ ซึ่งเวลาที่เราถ่ายวิดีโอแบบวัตถุเคลื่อนที่ หรือมีการถ่าย Tilt และ Pan ก็ใช้ gimbal จะสมูทและสะดวกที่สุด ซึ่งแบรนด์ที่ทางกล้องกล้วยกล้วยแนะนำก็จะมี Zhiyun กับ DJI
Filter
ฟิลเตอร์ที่ทางกล้องกล้วยกล้วยใช้จะเป็น Variable ND Filter ข้อดีของมันคือสามารถเปลี่ยนความเข้มได้ ที่ต้องใช้เพราะว่าเวลาถ่ายรูป ความเร็วชัตเตอร์จะถูกฟิกเอาไว้ที่ 2 เท่าของเฟรมเรต ช่องรับแสงจะปรับได้จำกัด ซึ่งต้องมีฟิลเตอร์ ND มาคอยลดแสง สามารถปรับได้ละเอียดมาก