พี่โก๊ะจับกล้อง Sony A7R3 ของตัวเองไปใช้งานแบบยาวๆ ตัวกล้องดีขึ้นในทุกด้าน ทั้งโฟกัส การจับถือ และการควบคุม รวมทั้งไฟล์ภาพ และระบบ Pixel Shift ใช้งานได้เด็ดมาก รวมทั้งแบตเตอรี่อึดสุดๆ ตามพี่โก๊ะไปใช้งานภาคสนามด้วยกัน ว่ากล้องจะดีขนาดไหน
พอได้ Sony A7R3 มานะครับ ผมก็มีโอกาศได้เข้าไปถ่ายภาพด้านในของพระเมรุมาศ ถ่ายตอนกลางคืน ซึ่งวันที่ถ่ายจริงๆ แล้วท้องฟ้ามืดมาก แล้วก็ลำแสงของไฟแทบจะไม่เห็น แต่ว่าด้านประสิทธิภาพของ A7R3 ผมสามารถที่จะดึงลำแสงของไฟที่ฉายไปที่พระเมรุมาศ ให้เห็นเป็นลำแสงได้
บางภาพมีซ้อนดวงจันทร์นิดหน่อย เป็นพระจันทร์จากคืนนั้น แต่ว่าอยู่คนล่ะมุม ก็ย้ายดวงจันทร์มาจากมุมนึงมาอีกมุมนึง จากที่แบบดำๆ มืดๆ คอนทรานต์สูงๆ สามารถดึงกลับมาได้หมดเลย
หลังจากถ่ายภาพพระเมรุมาศ ผมก็ได้เอากล้อง Sony A7R3 ไปถ่ายภาพที่อ่างเก็บน้ำบางพระ เพื่อนๆ ชวนไปถ่ายรูปที่มีการเซ็ทอัพกันนิดหน่อยนะครับ ผมถ่ายภาพตั้งแต่ช่วงมืดๆ เลยนะครับ จนเริ่มมีแสงเรืองๆ
ภาพที่ได้ต้องบอกว่านอกจากเรื่อง dynamic range ที่กว้างทำให้สามารถดึง Shadow ดีเทลได้เยอะแล้วเนี้ย Noise ของตัว A7R3 ค่อยข้างต่ำ ต่ำกว่า R2 แล้วก็ต่ำเป็นหัวแถวของกล้องดิจิตอลฟลูเฟรมตอนนี้เลยนะครับ
ไฟล์ภาพที่ได้ลองขยายมาที่ 100% จะเห็นว่ามีความคมชัดที่ดีมาก แล้วก็ Noise ที่ดีมาก การไล่ระดับโทนก็ทำได้ดีมากๆ ด้วย ปกติเวลาที่เราดึง dynamic range มากๆ การไล่ระดับโทนจะค่อยข้างเสียนะครับ ถ้าโดยปกติ
ดูของ Sony A7R3 ลองดูที่หน้าคุณลุง คุณลุงก็พยายามนั่งเรือนิ่งๆ ก็ยังสามารถเก็บรายละเอียดได้ชัดมาก ไล่โทนได้ดี แล้วก็เห็นสายเห็นคันเบ็ดได้ชัด นี่คือข้อแตกต่างของ Sony A7R3 ซึ่งมีความคมดี การไล่โทนดี dynamic range ดีมากนะครับ
ระบบการโฟกัสทำได้ดีขึ้่น โดยเฉพาะในที่มืดก็ทำได้ดีขึ้น ระบบโฟกัสของ Sony A7R3 ก็ถือว่าเป็นหัวแถวของ Sony ตอนนี้แหละ
ผมชวนน้องเอไปเป็นแบบถ่ายภาพที่ระยอง ขับรถผ่านป่ายางพาราก็ให้น้องเอช่วยลงไปเป็นแบบ ภาพชุดนี้จะแสดงศักยภาพการทำงานร่วมกันระหว่าง A7R3 กับเลนส์ที่ผมชอบมากนะครับ ก็คือ Sony Zeiss 50mm f/1.4 FE
สองตัวนี้เวลาใช้ร่วมกันจะทำงานได้ดีมากนะครับ โฟกัสได้แม่น ภาพจะแบบคมกริปๆ แต่ว่าฉากหลังทิ้งละลายหาย สังเกตุ Bokeh ก็จะค่อยข้างวน เป็น Boken ที่สวยมากของ Sony Zeiss 50mm f/1.4 FE ตัวนี้เลยนะครับ
บางภาพเวลาถ่ายผมใช้กล้องมุมต่ำมากนะครับ เจอหญ้าบังหน้าแบบนี้นะครับ ก็เปิด Face Detection Eye Detection โฟกัสจับที่หน้าสบายมาก ไม่มีผิดพลาดเลย แต่ถ้าจะให้ชัวเวลาถ่ายเสร็จก็ขยายดูสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
สิ่งที่ดีขึ้นของ Sony A7R3 อีกประการนึงเมื่อเทียบกับตัว Sony A7R2 ก็คือเรื่องของ Hotpixel ดีขึ้นนะครับ Hot pixel น้อยลงแล้วก็จัดการได้ง่ายขึ้น ถ้าถ่ายภาพเปิดรับแสงประมาณ 30วินาที ที่ISO1600 ก็ไม่จำเป็นต้องเปิด Longexposure Noise Reduction เลยนะครับ จะไม่มี Hotpixel ขึ้นมากวนใจ
แต่ถ้าเกินไปกว่านี้ยาวกว่านี้นะครับ แล้วก็ถ้าอุณหภูมิอากาศร้อนๆ ก็จะมี Hotpixel ขึ้นมา แนะนำให้เปิดตัว Longexposure Noise Reduction
ผมถ่ายดาวไปหลายรูปเหมือนกันนะครับ แล้วก็มีผมใช้ RAW file ดึงนิดนึงนะครับ เพื่อดึงให้ทางช้างเผือกมันเห็นชัดขึ้น ดึงรายละเอียดส่วนมืดขึ้นมากอีกหน่อยนึง
ไปถ่ายน้องเอที่ริมชายหาดนะครับ ภาพนี้ปรับ DRO lighting ให้อยู่ที่ Level 2 เพราะว่าส่วนมืดมันมืดไปนิดนึง ก็เลยใช้ฟังชั่นของกล้องที่ให้มากซึ่งเวริ์คมากนะครับ ก็คือ DRO ผมปรับส่วนสว่างให้สว่างขึ้นมาอีกหน่อยนึง ตอนปรับ DRO ก็ปรับได้หลาย Level ตั้งแต่ 1-5 นะครับ ส่วนใหญ่ผมจะไม่อยู่ที่ Auto ก็จะใช้ปรับตั้งเอง ว่าต้องการใช้ระดับไหน เพราะว่าจะได้ดั่งใจมากกว่า
จุดเด่นของ Sony A7R3 ก็คือเราสามารถถ่ายภาพ continue ได้ระดับ 10 เฟรมต่อวินาที แล้วก็โฟกัส Tracking ทันนะครับ ผมลองถ่ายโหมด continue บ้างโดยให้น้องเอเล่นน้ำ ก็เตะน้ำบ้าง กระโดดบ้าง โดยใช้โหมดโฟกัสแบบ continue แต่ว่ายังอยู่ที่ Face Detection แล้วก็ถ่ายรูปที่ 10 เฟรมต่อวินาทีเป็น continue high แล้วก็มาเลือกเอาบางทีใช้งานนะครับ ภาพที่ใช้งานจะเป็นภาพที่กระโดดเลยจุดสูงสุดไปนิดนึง ก็คือจริงๆ เวลาเราถ่ายไม่จำเป็นต้องช่วงพีคของตำแหน่งนะครับ ดูแอ็คชั่นตรงไหนสวยก็ใช้ตรงนั้นเลย
ผมลองถ่ายภาพดาวเหนือ ตัวไฟล์ภาพเก็บสีเก็บแสงได้ดีมากๆ เพราะว่าใครไปที่นี่จะรู้ว่ามันมากนะครับ มีแสงเรืองบางๆ เท่านั้นเอง ตัว Sony A7R3 เนี้ย ภาพดาวผมแทบไม่ต้องขุดเลย คือดาวมันติดขึ้นมาชัดอยู่แล้ว สิ่งที่ขุดก็แค่ Shadow ดีเทลเท่านั้นเอง เพราะว่าส่วนมืดมากไม่มีแสงช่วยเลย
ผมถ่ายดาวหลาย ๆ ภาพมา Stack กัน ถ่ายอยู่ที่ 30วิ F2.8 ISO 400 เท่านั้นเองนะครับ ตอนผมถ่ายเนี้ยถ่ายต่อเนื่องยาวเลยนะครับ เป็นชั่วโมง เพื่อมาทำดาวหมุน แล้วก็ภาพนี้เนี้ยตัวทิศเหนือมันอยุ่ด้านยอดของหลังคาโบสถ์พอดีนะครับ
ผมไปที่สามพันโบกนะครับ เอาเต้นท์มาจัดเป็นฉากหน้าถ่ายดาวเหนือหมุน ซึ่งถ่ายต่อเนื่องยาวเลยนะครับ ถ่ายตั้งแต่ประมาณสี่ทุ่มถ้าจำไม่ผิด จนถึงตอนเช้า แบตในกล้องพร้อมกริปสองก้อนเนี้ยไม่หมดเลยนะครับ เป็นอะไรที่ประทับใจมากนะครับ สามารถถ่ายดาวทั้งคืนสองก้อนสบายเลย
สิ่งที่ชอบหลังจากใช้งาน Sony A7R3
-การจับถือที่ดีขึ้น
ผมมักจะต้องติดกริปเพราะว่าตัวกล้องเล็กผมจับไม่ถนัด Sony A7R3 พอติดกริปแล้วดีขึ้นกว่าตัว Sony A7R2
-โฟกัส
ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน การควบคุมจุดโฟกัสดีขึ้น
-การวัดแสง
เวลาที่ผมจะควบคุม Dynamic range บน RAW ไฟล์ดีขึ้น เพราะว่ามี Sport ที่ลิ้งค์เข้ากับจุดวัดแสง แต่ว่ายังขาดสเกลวัดแสงที่ทำได้แค่ บวกลบ 2 Stop อยากให้ได้ 5 Stop อยู่เหมือนกันตอนนี้
-แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ใช้ตัวก้อนใหญ่ตัวเดียวกับ A9 สิ่งที่คาดไม่ถึงคือมันอึดขึ้นเยอะเลย ผมสั่งซื้อแบตเตอรี่ไปทั้งหมด 5 ก้อน แต่ว่าพอใช้งานจริงๆ ถ่ายรูปตั้งแต่เช้ายันกลางคืนยันเช้า เต็มที่ใช้แบตเตอรี่เพียงสามก้อน แล้วก็ช่วงที่ไม่ได้ใช้กล้องก็สามารถชาร์จเข้าตัวกล้องได้เลยเป็น USB 3.0 ซึ่งชาจ์นได้เร็ว ยังไม่เคยเจอปัญหาเรื่องชาจ์นแบตไม่ทัน ตอนนี้สบายมากเลยสำหรับตัว Sony A7R3 พกแบตเตอรี่ไปเท่านี่รับรองเอาอยู่
-ระบบ Pixel shift
เวลาที่ถ่ายภาพ Product ในสตูดิโอ แสงนิ่งทุกอย่างนิ่ง ถ่ายออกมาความคมชัดที่ได้สุดยอดมาก แล้วก็เวลาที่ผมเทสถ่ายในสตูดิโอก็จะใช้ Pixel shift เพราะว่าเราสามารถที่จะเห็นคุณภาพเต็มๆ ของเลนส์ 100% ได้เลย โดยที่ตัวเซนเซอร์ของกล้องไม่ลดทอนคุณภาพไฟล์ เพราะฉะนั้นเลนส์ทุกตัวเวลามาใช้จะคมขึ้นรายละเอียดดีขึ้นทุกตัวเลย
-Buffer
Buffer มีขนาดใหญ่ขึ้นจากการใช้ USH-II ทำให้เคลียร์เมมโมรี่ได้เร็วขึ้น ก็มีประโยชน์มากเวลาผมถ่ายดาว ต่อเนื่อง บางทีถ่าย2วินาทีต่อเฟรม ต่อเนื่องกันก็ทำให้ผมไม่ติดขัด แล้วก็เวลาถ่ายพาโนราม่าเร็วๆ ก็ดีขึ้นด้วย
-การถ่ายภาพเคลื่อนไหว
สามารถถ่ายภาพคนเดิน เดินคนวิ่ง ถ่าย Action ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องกลับไปใช้กล้องตัวอื่น เพราะว่าตัวนี้ โฟกัสตาม Tracking ทัน แล้วก็10 เฟรมต่อวินาที ถือว่าเป็นความเร็วที่ใช้ได้นะครับ
ผมลองทดสอบ dynamic range ของตัว Sony A7R3 นะครับ โดยการตั้้ง ISO ที่ 100 แล้วก็ถ่าย Under ไป 9 Stop แล้วก็ Over ไปอีก 6 Stop ลองดึงสีให้กลับมาที่ปกติ
ภาพที่ Under 5 Stop ยังสามารถดึงสีกลับมาได้ปกติเลยนะครับ จากมืดๆ แทบจะไม่เห็นอะไร กลับที่ Normal ได้เลยนะครับ แต่ว่ามี Noise ที่เป็น Chroma noise ติดมานิดหน่อย ซึ่งตอนผม convert ไม่ได้เปิดระบบ Noise reduction ที่ตัวซอฟแวร์เลยนะครับ ก็ดูความสามารถของกล้องโดยตรงเลย แล้วก็ความคมชัดกับรายละเอียดของภาพดีมากด้วย
ส่วนภาพที่ Under 6 Stop สีเริ่มผิดเพี้ยนนิดนึง
ส่วนที่ Under 7 Stop ,Under 8 Stop เริ่มเพี้ยนมากขึ้น
พอ 9 Stop ไม่สามารถดึงสีกลับมาได้แล้วนะครับ เป็นจ้ำม่วงๆ เป็นแถบม่วง ก็ Under ขนาดนี้ 8 Stop เนี้ยเหลือเฟือเลยนะครับ ถ้าใครถ่าย Under มากกว่านี้เนี้ย จริงๆ ควรไปถ่ายใหม่แล้วนะครับ ไม่ควรดึงแล้ว
ส่วนที่ Over 2 Stop นะครับ ยังสามารถดึงกลับมาได้อย่างสบายๆ 3 Stop ยังได้อยู่
แต่ 4 Stop ไม่สามารถดึง Highlight กลับมาได้แล้วนะครับ
ถ้าให้สรุปช่วง dynamic range ที่ใช้งานได้จริงของ Sony A7R3 เราจะได้ dynamic range ส่วน Over อยู่ที่ประมาณ 5 Stop ครึ่ง ซึ่งถือว่าเยอะมาก แล้วก็ dynamic range ส่วน Under อยู่ที่ประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 8 Stop ซึ่งรวมแล้วเราจะได้ dynamic range ที่ใช้งานจริงๆ อยู่ประมาณ 13.5 Stop เป็น dynamic range ที่ใช้งานได้จริงสำหรับ Sony A7R3 ซึ่งถือว่ากว้างมากนะครับ แล้วถ้าเกิดใครเปิดระบบ Noise reduction ก็จะยืดออกไปกว่านี้อีกนิดหน่อย
ผมทดสอบ Noise กับ ISO ของ Sony A7R3 ที่ ISO 100 อันนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เนียนกิ๊กๆ
ส่วน ISO 200 ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า 100 เลยนะครับ
ISO 400 ถือว่าโอเคมากยังไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ISO 800 ก็ยังใช้งานได้เนียนๆ เป็นปกติอยู่นะครับ มี Noise ขึ้นมานิ๊ดดนึงเท่านั้นเอง
พอ ISO 1600 นะครับ เราจะเริ่มเห็น Noise บ้างในส่วนของ Shadow ส่วนสว่างไม่เป็นไรสบายมาก
ISO 3200 เริ่มมี Noise เข้ามากวน ทั้งในส่วนของ Mid-tone ในส่วนของ Shadow บ้างนะครับ แต่ว่ายังใช้งานได้สบายๆ ถ้าไม่ขยาย 100% นี่กริ๊ปๆ
ISO 6400 นะครับ ก็มี Noise เข้ามากวนค่อยข้างเยอะแล้ว แต่ว่ายังเป็น ISO ที่จริงๆ แล้วยังสามารถใช้งานได้สบายๆ เรื่องรายละเอียดต่างๆ ก็ยังทำได้ดี เพราะงั้นถ่ายดาวยังสบายๆ อยู่นะครับ
ที่ ISO สูงกว่านี้ ก็จะมี Noise ค่อยข้างเยอะแล้วนะครับ ข้อดีของตัว Sony A7R3 ก็คือจะไม่ค่อยมี Chroma noise เวลาที่เราตั้ง ISO สูงจะเป็นจ้ำแดงๆ ม่วงๆ มันจะเป็น Grain แบบขาวดำ ยังคงมีความเนียนอยู่นะครับ ถือว่าทำได้ดีกว่าตัว A7R2 อยู่พอสมควรทีเดียวโดยเฉพาะในเรื่องของ Chroma noise