สังขละบุรีสถานที่ดีๆ ที่อยากให้ไปสักครั้งในชีวิต by Traveloka

หากต้องการหาสถานที่ท่องเที่ยว ถ่ายภาพ และพักผ่อนกับครอบครัวที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนัก สังขละบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้
       สังขละบุรีเมืองเล็กๆสุดน่ารัก ในจังหวัดกาญจนบุรีตั้งอยู่สุดขอบประเทศไทยติดกับชายแดนพม่าห่างจากกรุงเทพฯ แค่ขับรถประมาณ 5 ชั่วโมงที่นี่เหมาะสำหรับคนที่อยากมาเที่ยวผ่อนคลายอารมณ์เพราะเป็นเมืองสบายๆบรรยากาศดีมีทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติอันสวยงาม นอกจากนั้นก็ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่เพื่อนๆ ควรจะไปเยี่ยมเยียนเมืองแห่งนี้ได้สักครั้งในชีวิต ซึ่งวันนี้ Traveloka ก็ได้รวบรวมเหตุผลน่าสนใจเหล่านั้นมาให้ทุกคนตรงนี้แล้ว

1.เป็นสถานที่เรียนรู้ชีวิตชาวมอญ

Thai-Mon style at Wat Wang Wiwekaram temple _1
the Wang Kka Wooden Bridge 1

       ชาวมอญอาศัยอยู่ในประเทศไทยมายาวนานหลายสิบปีจนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งชาติพันธุ์ในประเทศไทยเลยทีเดียว ชาวมอญส่วนมากอาศัยอยู่ที่ริมชายแดนพม่ากับประเทศไทยที่สังขละบุรีแห่งนี้นี่เอง ทำให้สังขละบุรีมีวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชาวมอญที่อาจไม่สามารถพบเห็นได้จากที่อื่น

เช่น การแต่งกายของชาวมอญ การทาแป้งมอญ การเทินของไว้บนหัว ภาษาอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวมอญ และหากใครได้แวะไปช่วงเทศกาลก็อาจได้ชมพิธีแปลกๆ อีกด้วย เช่น หากไปช่วงปีใหม่ (สงกรานต์) ก็จะได้เห็นพิธีอาบน้ำให้บุพการี เทน้ำจากขันเงินลงสู่รางไม้ไผ่ ก่อเจดีย์ทราย สร้างสะพานไม้สะเดาะเคราะห์ เป็นต้น

2.เป็นที่ตั้งของสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก

wooden-mon-bridge 1
wooden-mon-bridge 2
       สะพานอุตตมานุสรณ์หรือสะพานมอญเป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างฝั่งมอญและฝั่งไทยเข้าไว้ด้วยกันโดยมีความยาวถึง 850 เมตร ทำให้ที่นี่กลายเป็นสะพานไม้ที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย สะพานมอญเป็นสะพานที่มีหลากหลายอารมณ์ หากเพื่อนๆ แวะมาที่นี่ในตอนเช้าช่วงฤดูหนาวหรือหลังฝนตกก็จะได้เห็นกับกลุ่มหมอกที่ปกคลุมบ้านเรือนโดยรอบ หากมายามเย็นก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกอันสวยงาม แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือไม่ว่าช่วงเวลาไหนเพื่อนๆ ก็สามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวมอญได้ที่สะพานแห่งนี้ นอกจากไปเดินเล่นชมวิวกินบรรยากาศกันแล้วก็ยังสามารถไปดูกิจกรรมสุดมันส์ของเด็กๆ ชาวมอญได้อีกด้วย เพราะเด็กวัยรุ่นชาวมอญหลายคนมักจะมาโชว์ความกล้าด้วยการกระโดดจากสะพานมอญลงไปที่แม่นำซองกาเรียแห่งนี้นั่นเอง

3.เป็นจุดสิ้นสุดชายแดนตะวันตกของไทย ที่ตั้งของด่านเจดีย์สามองค์

    อย่างที่รู้กันว่าอำเภอสังขละบุรีนั้นอยู่ติดชายแดนไทย – พม่า หากจะข้ามประเทศก็ต้องผ่านด่านเจดีย์สามองค์ซึ่งเป็นจุดกั้นพรมแดนระหว่างสองประเทศ ในอดีตเจดีย์สามองค์เป็นเพียงจุดที่ชาวบ้านนำหินมากองเพื่อให้เดินทางปลอดภัย แต่หลังจากนั้นได้มีการสร้างเจดีย์จากหินก้อนใหญ่ขึ้นมา ซึ่งเพื่อนๆ สามารถแวะมาเที่ยวที่ด่านแห่งนี้ หรือจะข้ามฝั่งไปเที่ยวที่พม่าก็ได้ โดยสามารถทำบัตรผ่านแดนที่ด่านเจเดีย์สามองค์แห่งนี้ได้เลย

4.เป็นที่ตั้งของเมืองบาดาลสุดอันซีนของประเทศไทย

Sunken temple 1
Sunken temple 2
     เมืองบาดาลที่พูดถึงแห่งนี้ก็คือวัดใต้น้ำหรือวัดวังก์วิเวการามนั่นเอง วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณที่แม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน ในปัจจุบันอาจมองเห็นแม่น้ำแต่ละสายไม่ชัดเจนเพราะกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ หากแวะมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้ในช่วงเดือนตุลาคม – มกราคมจะได้เห็นเพียงแค่ยอดโบสถ์ที่อยู่เหนือน้ำและส่วนที่เหลือจะอยู่ภายใต้น้ำ แต่หากมาในช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้งเพื่อนๆ จะสามารถเห็นโบสถ์ทั้งหลังซึ่งสามารถเดินเข้าไปชมในโบสถ์ได้

5.เป็นเมืองแห่งโฮมสเตย์เก๋ๆ

     สังขละบุรีเป็นเมืองแห่งโฮมสเตย์เก๋ๆ เพราะที่พักสังขละบุรีส่วนมากนั้นล้วนแล้วแต่เป็นโฮมสเตย์เล็กๆ น่ารัก ที่ดำเนินงานโดยคนภายในพื้นที่ หากใครมีโอกาสไว้แวะไปเที่ยวที่สังขละบุรี Traveloka ก็ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ลองไปพักที่พักสังขละบุรีแบบโฮมสเตย์ดู โดยที่พักสังขละบุรีแต่ละที่นั้นจะมีสไตล์แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ราคา แต่ที่มีเหมือนกันทุกที่แน่นอนก็คือความสบาย เป็นกันเอง เหมาะกับการพักผ่อนนั่นเอง หากอยากลองไปดูที่พักสังขละบุรีก็สามารถ คลิกที่นี่ ได้เลย

     สุดท้ายนี้หากใครวางแผนไปเที่ยวสังขละบุรีได้เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมกดจองที่พักสังขละบุรี กับ Traveloka กันก่อนออกเดินทาง เพราะเรามีที่พักราคาดีๆ ไว้ให้เลือกสรรมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจองผ่านแอพพลิเคชั่นของ Traveloka ก็จะมีคูปองให้เพื่อนๆ ได้นำไปลดราคากันเพิ่มขึ้น รับรองว่าการจองผ่าน Traveloka นั้นจะทำให้การท่องเที่ยวของเพื่อนๆ ที่เคยเป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวาย กลับกลายมาเป็นเรื่องง่ายได้ภายในพริบตาเดียวแน่นอน

แสดงความเห็นได้ที่นี่

Related Posts