Review กระเป๋ากล้อง F-Stop สำหรับขาลุยตัวจริง ตัวเดียวจบ by พี่โก๊ะ กล้องกล้วยกล้วย
F-Stop กระเป๋ากล้องสำหรับนักถ่ายภาพขาลุยที่เป็นทั้งกระเป๋ากล้องและเป้เดินป่าระดับโปร ใส่กล้องได้ สัมภาระเดินป่าได้ในใบเดียว เนื้อผาเหนียว ทนทาน อึดสุดๆ และยังกันน้ำได้ดีเยี่ยม ตัวเดียวจัดเต็ม เอาอยู่หมด แล้วยังสามารถเปลี่ยนขนาดและเพิ่มช่องใส่ของด้านในกระเป๋าได้อีกด้วย อุปกรณ์มากน้อยแค่ไหน ใส่ได้จุใจตามใจผู้ใช้ ตัวเดียวเที่ยวรอบโลกได้เลย พี่โก๊ะนำเอาไปออกทริปเที่ยวแบบไม่เกรงใจ จะใช้งานเวิร์คแค่ไหน ตามไปใช้งานด้วยกันเลย…………
กระเป๋ากล้องที่ดี สิ่งสำคัญนอกจากวัสดุและการดีไซน์ การกระจายและรองรับน้ำหนักคือสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะว่าเวลาเราแบกอุปกรณ์อย่างน้อยประมาณ 7-8 กิโลกรัม มีขาตั้งอยู่อีกกว่า 10 กิโลกรัม แล้วเราต้องเดินป่าไกลๆ แบบ 15 กโลเมตร 3 วัน อะไรอย่างนี้ ถ้าการกระจายน้ำหนักของกระเป๋าไม่ดี จะเป็นปัญหามาก ตัวกระเป๋ากล้องชั้นเลิศ หรือกระเป๋าเดินป่าชั้นดี รวมทั้งกระเป๋าอย่าง F-Stop จะมีการกระจายน้ำหนักที่ดีมาก
อย่างแรกถ้าสังเกตุ ตัวเข็มขัดจะไม่ได้เป็นเชือกธรรมดา มันจะเป็นฟองน้ำแข็ง หนา แล้วก็รัดเต็มเอวเลย สามารถที่จะรับกระจายน้ำหนักให้ลงเอว แล้วก็รัดเอวให้แน่น เวลาที่เราบิดไปบิดมา กระเป๋าจะไม่บิดตาม ตรงนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เวลาเราเดิน กระโดดข้ามลำธาร หรือปีนป่าย ถ้ากระเป๋าเหวี่ยง จะเสียการทรงตัว เสียสมดุล แล้วก็จุดที่ลงบ่า ตัวบ่าสายจะต้องหนาและเป็นฟองน้ำนุ่ม ส่วนใหญ่น้ำหนักของกระเป๋ากล้องจะลงที่เอวไม่ได้ลงที่บ่า ถ้าลงที่บ่า เราจะเจ็บบ่า แต่ถ้ากระเป๋าน้ำหนักลงเอว สามารถเดินไปได้ยาว ซึ่งตอนที่เห็นกระเป๋า F-Stop ได้ดูเรื่องการกระจายน้ำหนัก วัสดุ กันน้ำ เรื่องความกระชับ นี่คือสิ่งสำคัญ
ลองมาดูว่ากระเป๋า F-Stop ดียังไง ข้างในมีอะไรบ้าง
กระเป๋า F-Stop เวลาใช้งานจะเปิดจากทางด้านหลัง เพื่อความสะดวกในการหยิบของ พอเปิดออกมาด้านในก็จะมีช่องใส่ของ ตัวด้านในเวลาที่เราซื้อกระเป๋า F-Stop จะเป็นกระเป๋าเปล่าๆ ด้านในจะไม่มีอะไรเลย ไม่มีตัว ICU (Insert Camera Unit) ด้านในประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกคือตัวกระเป๋าเปล่าๆ ซึ่งถ้าเกิดเราไม่ใช้เป็นกระเป๋ากล้อง เราไปเดินป่าอย่างเดียว เราสามารถที่จะใช้กระเป๋า F-Stop เป็นกระเป๋าเดินป่าได้ ข้างในก็ใส่สัมภาระ ด้านในก็จะมีช่องสำหรับใส่คอมพิวเตอร์ ตัวผ้าจะบุกันน้ำ คือตัวผ้าจะโค้ทกันน้ำมาชั้นนึง แล้วก็จะมีด้านในอีกชั้นนึง เพราะฉะนั้นกันน้ำคือสองชั้นเลย ตัวซิปที่ใช้จะเป็นซิปกันน้ำทั้งหมด
ด้านล่างจะเป็นคล้ายๆหนังพลาสติกหนา ให้เราสามารถวางสัมภาระได้สบาย มีความทนทาน รับประกัน 3 ปี แต่เท่าที่ทราบคือเวลามีอะไร สามารถเคลมซ่มแซมได้ตลอดเวลา ฝาด้านหลังจะเป็นที่ใส่ของ สามารถใส่อะไรก็ได้ มี 2 ช่อง ตัวสายสะพายจะมีตัวล็อค ซึ่งอันนี้จะมีตัวล็อคสาย 2 อัน ทำให้เวลาที่เราเดินจะไม่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา แล้วนอกจากนี้จะมีช่องสารพัดช่องเลย มีตัวล็อคที่เป็นตัวเกี่ยวซึ่งตรงนี้สามารถที่จะเกี่ยวกับสายสลิงได้ มีความแข็งแรง เหนียวมากพอที่จะรั้งตัวเรา แล้วก็ตัวเข็มขัดตัวนี้จะสามารถเอาไว้เกี่ยวของจุ๊กจิ๊ก ด้านข้างก็จะเป็นช่องใส่ของอีก มีช่องตาข่ายให้ ซึ่งถ้าเราใช้ขาตั้งตัวไม่ยาวมาก สามารถเอาขาตั้งเข้าไปใส่ในนี้ได้เลย มีช่องที่สามารถใส่เป้น้ำได้ ช่องด้านบนเวลาเปิดจะทะลุเข้าไปเห็นช่องด้านใน สามารถที่จะหยิบอุปกรณ์จากด้านหลังหรือด้านบนก็ได้ แล้วที่ฝาด้านบนจะมีที่เก็บของ เราจะเอาไว้ใส่ของจุ๊กจิ๊กอะไรก็ได้แล้วแต่เราเลย ตัวกระเป๋าจะมีโครง เป็นโครงอลูมิเนี่ยม ซึ่งทำให้กระเป๋าเข้ารูป ในส่วนของช่องด้านบน จะมีที่คล้องกุญแจ ส่วนด้านหน้าสุดก็จะมีช่องใส่ของอีก สารพัดช่อง
ตัว F-Stop ใส่กล้องได้อย่างไร, อะไรคือ ICU
ตัวกระเป๋า F-Stop จะมีไอเท็มที่เรียกว่า ICU (Insert Camera Unit) ซึ่งจะทำให้ปัญหาเรื่องอุปกรณ์กล้องงอกนั้นเป็นเรื่องสบายทันที จบเลยได้ในตัวเดียว คือจะมี ICU ขนาดต่างๆ สามารถใส่ 1 ใบ หรือ 2 ใบก็ได้ นอกจาก ICU ทาง F-Syop ยังมีกระเป๋า accessories ให้เราใช้งาน เอาไว้ใส่ accessories จุจิกอะไรก็ได้ เวลาใช้งานจะได้ไม่เกะกะ ตัว ICU ออกแบบมาให้เราสามารถดึงออกมาใช้งานได้อิสระ
การใช้งานกระเป๋า F-Stop
เวลาใช้งานก็เอาตัว ICU (Inesert Camera Unit) เข้าไปในตัวกระเป๋า แล้วก็ด้านข้างจะมีตัวล็อคอยู่ เราก็เอาตัวล็อคเกี่ยวเข้าไป ตัว ICU ก็จะไม่ดิ้น
กระเป๋า F-Stop กับ Rain Cover…
ถ้าคิดว่าเจอฝนหนักๆยาวๆ ตัวกระเป๋า F-Stop นอกจากตัวมันเองกันน้ำได้ดีมากแล้ว ยังมี Rain Cover (เสื้อคลุมกันฝน) ตัว rain cover ของกระเป๋า F-Stop จะเป็นผ้าไนลอนคล้ายๆกับแบบเดียวที่ทำกระเป๋า ด้านในจะเคลือบกันน้ำเอาไว้ แนะนำให้มีติดเอาไว้เพราะว่าถ้าเจอประเภทฝนตกหนักๆ แบบโดนฝนกัน 7-8 ชั่วโมง จะได้ป้องกันชัวร์แน่นอน ตัว rain cover ออกแบบได้ดีมาก คือจะมีตัวล็อคด้านในด้วย อันนี้ใส่ไปแล้วจะมีตีนตุ๊กแกสำหรับล็อคไม่ใ้หขยับหรือหนีไปไหน เพราะส่วนใหญ่ rain cover ที่เราใช้กันจะประเภทแบบพอใช้แล้วดิ้นได้ ด้านล่างก็จะมีตีนตุ๊กแกสำหรับมัดให้ยึดติดอีกชั้นนึงด้วย
