Review Fujifilm X-A5 BY Lek X Photographer

Fujifilm X-A5 นอกจากจะถ่ายภาพแนวฟุ้งฟริ้ง ถ่ายPortrait หรือใช้งานแบบมือใหม่ได้ดีแล้ว ยังใช้แบบจริงจังได้ดีอีกด้วย

Review Fujifilm X-A5 BY Lek X photographer

ผมใช้งาน Fujifilm X-A5 ระยะเวลาเกือบ 1 เดือน Fujifilm X-A5 นอกจากจะถ่ายภาพแนวฟุ้งฟริ้ง ถ่ายPortrait หรือใช้งานแบบมือใหม่ได้ดีแล้ว ยังใช้แบบจริงจังได้ดีอีกด้วย ผมลองนำ Fujifilm X-A5 ไปใช้ถ่ายภาพวิวแบบดุๆ มาดูกันว่าภาพจะ X-A5 จะเป็นอย่างไร และตอบสนองได้ดีขนาดไหน

ผมได้กล้อง   Fujifilm X-A5 มาลองถ่ายภาพแนว Landscape และแนวอื่นๆ แบบคนใช้งานจริงจัง  ถ่ายให้เหมือนโปร โดยใช้ฟังชั่นต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจากตัว X-A3  เช่นระบบ HDR , Timelapse Movie  และดูคุณภาพไฟล์ภาพจาก Fujifilm X-A5 กล้องเล็กๆ ที่ทุกคนบอกว่า เป็นกล้องฟุ้งฟริ้งสำหรับสาวๆ เอามาถ่ายแบบจริงจัง ถ่ายให้เป็นมือโปรทำได้ขนาดไหน

ผมเดินทางไปที่สามพันโบก อุบลราชธานี  ที่นี่จะมีแก่งหินค่อนข้างสวยงาม ไฮไลท์ของที่นี่คือ หินรูปหัวสุนัข  ซึ่งวันนี้เราจะมาทำการถ่ายเหวี่ยงไฟ  สิ่งแรกคือหาจุดตั้งกล้องริมน้ำให้หัวสุนัขอยู่มุมบนในจุดที่อับลม เพื่อไม่ให้ไฟกระจายไปตามแรงลมและสามารถควบคุมการกระจายของไฟได้   เนื่องจากการถ่ายภาพลักษณะนี้ สิ่งที่ไม่แน่นอนคือ ทิศทางลม  สองคือ ความเร็วของการควงไฟ ซึ่งถ้าสองอย่างนี้มันเยอะไป ตัวไฟก็อาจจะออกมาเยอะ ทำให้ Hilight เราหลุดได้ เราก็ต้องมาคอนโทรลกันระดับนึง  การเซ็ทค่าคร่าวๆ ผมจะเซทให้ค่า Hilight -2 ปกกันไม่ให้ Hilight มันหลุดมากแต่อย่างไงมันก็ยังมีการหลุดบ้าง อันนี้เป็นเรื่องปกติในส่วนของศูนย์กลางการควงไฟ แต่ว่าเราต้องคอนโทรลในส่วนที่เหลือไม่ให้มันหลุด

ในส่วนของ Color กับ Sharpness ผมก็ใส่ขึ้นไป +2 ทั้งคู่ เพื่อต้องการสีที่มันสดและมีความคม   และส่วนที่สำคัญเนื่องจากการควงไฟ เราจะใช้เรื่องของ Long Exposure เข้ามาเกี่ยวข้อง ผมจะคอนโทรลให้ ISO อยู่มากสุดแค่ประมาณ 800 ไม่ให้เกินกว่านั้น เพื่อเป็นการควบคุมในเรื่ีองของ Noise ไม่ให้มันเยอะเกินไป   สิ่งที่ได้เราก็มาเลือกภาพที่ดีที่สุด จะเห็นว่าการควงไฟมันจะแตกตัวค่อยข้างสวย มีการกระทบหินแล้วก็เรื่องของการจัดการ Noise ของตัวกล้อง X-A5 ตัวนี้ เรียกว่าทำงานได้ดีเลยทีเดียว  สามารถคุมสีส่วนสว่างไม่หลุดหายไป  สียังสดใส  ภาพคมและมี Noise ต่ำมาก  ได้ไฟล์ที่คุณภาพดีเยี่ยม   หวังว่าหลายๆ คนที่แวะมาที่นี่ ลองมาวางแผนดูนะครับ เป็นกิจกรรมถ่ายภาพที่สนุกมากแน่นอน

ผมเดินทางไปที่สามพันโบก อุบลราชธานี ที่นี่จะมีแก่งหินค่อนข้างสวยงาม ไฮไลท์ของที่นี่คือ หินรูปหัวสุนัข ซึ่งวันนี้เราจะมาทำการถ่ายเหวี่ยงไฟ การเซ็ทค่าคร่าวๆ ผมจะเซทให้ค่า Hilight -2 ส่วนของ Color กับ Sharpness ผมก็ใส่ขึ้นไป +2 ทั้งคู่ และส่วนที่สำคัญเราจะใช้เรื่องของ Long Exposure เข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่อง Noise ของตัวกล้อง X-A5 ตัวนี้ เรียกว่าทำงานได้ดีเลยทีเดียว สามารถคุมสีส่วนสว่างไม่หลุดหายไป สียังสดใส ภาพคมและมี Noise ต่ำมาก  ได้ไฟล์ที่คุณภาพดีเยี่ยม

เราก็จะหมุนดาวโดยใช้ฟังชั่นของ Fujifilm X-A5 เข้ามาช่วยก็คือ Timelapse แปลงภาพเป็นวิดีโอได้โดยตรง  ใช้เลนส์ 10-24 เปิดรับแสงภาพละ 30 วินาที iso3200

หลังจากควงไฟเสร็จเรามาถ่ายภาพดาวเหนือกัน  สิ่งที่เราวางแผนกันคืนนี้ก็คือ เราจะถ่ายดาวหมุนโดยเอาเตนท์เป็นฉากหน้า เห็นแม่น้ำโขงกับดาวหมุน  จากนั้นเราก็จะหมุนดาวโดยใช้ฟังชั่นของ X-A5 เข้ามาช่วยก็คือ Timelapse แปลงภาพเป็นวิดีโอได้โดยตรง  ใช้เลนส์ 10-24 เปิดรับแสงภาพละ 30 วินาที iso3200  สิ่งที่ลำบากคือการโฟกัส เราใช้ระบบ Autofocus ของ Fujifilm X-A5  ทำการโฟกัสที่เตนท์  ส่องไฟช่วยนิดหน่อย   กดชัตเตอร์ แล้วไปนอน   ตื่นมาเก็บก็กล้องได้เลย Fujifilm X-A5 จะทำการโพรเซสภาพดาวหมุนให้อัตโนมัติ   เราไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มเติม   วิดิโอที่ได้จากที่เราทำการโปรเซสมาทั้งคืนประมาณ 200 ภาพสวยมาก อยากให้ทุกคนที่มีโอกาส มาที่สามพันโบก มาถ่ายรูปดาวหมุนด้วยกัน

หลังจากที่เรานอนถ่ายดาวหมุนตอนกลางคืนแล้ว  ตื่นมามีแรงเก็บแสงเช้ากันต่อ ผมก็กะจะเก็บจุดเดิมแต่ว่า ทิศของพระอาทิตย์ขึ้นตรงตะวันออก ซึ่งภาพที่เซ็ทไว้ก็คือตรงฉากที่มีเต็นท์แล้วให้เพื่อนไปยืนเป็นฉากอีกคนนึง ให้เห็นว่ามันมีเต็นท์กับมีคนอยู่ตรงหน้าผา แสงของฟ้าตอนเช้าจะออกส้ม-ฟ้าอยู่แล้ว ปรับ White Balance เป็น Auto ไป แล้วเช็คดูสีว่าได้อย่างที่เราต้องการหรือยัง ในส่วนของ Color กับ Sharpness ยังให้อยู่ที่ +2 เหมือนเดิม เพื่อต้องการความคมชัด Hilight กับ Shadow ไมได้ไปปรับค่าเพราะในงานที่เป็น Silhouette ไม่น่ามีปัญหาอยู่แล้ว ภาพที่ได้จะเห็นว่ามันมีจุดน่าสนใจอยู่ก็คือตัวเต็นท์กับคนซึ่งการโพสท่าของคนก็จะเป็นส่วนนึงที่จะช่วยให้ภาพมีความน่าสนใจมากขึ้น จากรูปจะเห็นว่ามีคนอยู่คนนึงกับเต็นท์แล้วเป็นลักษณะเห็นเป็นหน้าผา ถึงแม้เราจะไม่เห็นรายละเอียดของภาพ จะเห็นว่าภาพมาค่อนข้างสวย หวังว่าเพื่อนๆ เมื่อถ่ายรูปแล้วบางรูป ถ่ายค่อนข้างยาก ลองมาปรับใช้เป็นการถ่ายภาพ Silhouette ดูนะครับ

อีกฟังชั่นนึงที่น่าสนใจของ Fujifilm X-A5  ที่เราจะมาทำกันก็คือ ฟังชั่นของ HDR นะครับ ซึ่งฟังชั่นนี้มันจะตอบโจทย์ของการเจอภาพที่มันมี Contrast เยอะๆ  แต่ว่าเราอยากจะดึงให้มันได้ในส่วนของ Shadow กับ Hilight เพิ่มขึ้นมากกว่าการใช้ฟังก์ชั่น Hilight และ Shadow ในตัวกล้อง   HDR กล้องจะถ่าย 3 ค่าเปิดรับแสงเลือกได้ 1 ถึง 3 stop แล้วนำภาพมารวมกันให้อัตโนมัติ สะดวกและได้ภาพแบบจบหลังกล้องได้เลย

หลังจากที่เราลองแล้ว จะเห็นว่ามิติภาพจะดีขึ้น ในส่วนของ Hilight กับ Shadow จะมาครบ   Shadow เราจะไม่ทำให้สว่างมาก มีให้ดำเพื่อให้ภาพมีมิติ ดูเป็นธรรมชาติ   แต่ถ้าสังเกตุตัวคน หรือว่าหน้าผาระหว่างภาพที่ผมถ่ายเทียบ JPG ธรรมดา กับที่เป็น HDR จะเห็นความต่างค่อนข้างเยอะมาก  ฟังชั่นตัวนี้เป็นฟังชั่นที่น่าสนใจและใช้ประโยชน์ได้เยอะ

อีกฟังชั่นนึงที่น่าสนใจของ Fujifilm X-A5  ฟังชั่นของ HDR นะครับ จะตอบโจทย์ของการเจอภาพที่มันมี Contrast เยอะๆ ในตัวกล้อง HDR กล้องจะถ่าย 3 ค่าเปิดรับแสงเลือกได้ 1 ถึง 3 stop แล้วนำภาพมารวมกันให้อัตโนมัติ สะดวกและได้ภาพแบบจบหลังกล้องได้เลย

มุมแรกที่ถ่ายคือมุมของสนามหญ้าให้ติดวัดภูพร้าวด้วย ซึ่งพอดีกับที่ช่วงนั้นทางพระที่วัดกำลังเศษใบไม้ เราใช้การดึง Shadow -2 ให้ส่วนของ Contrast ลดลง ให้เราเก็บดีเทลของสนามหญ้าได้ด้วย แล้วก็ตัวของพระอุโบสถได้ชัดเจนขึ้น Hilight -2 เพื่อไม่ให้ Hilight มันหลุด

นอกจากสามพันโบก อีกที่ที่เราต้องแวะก็คือ วัดภูพร้าว ที่นี่มีจุดถ่ายภาพมหาชนอยู่ก็คือ ตัววัดภูพร้าวด้านหลังพระอุโบสถ สิ่งที่เราจะคิดเองก็คือ ถ่ายอย่างไงไม่ให้ซ้ำใครก็ต้องไปหามุมใหม่ๆ เพิ่มเติม   มุมแรกที่ถ่ายคือมุมของสนามหญ้าให้ติดวัดภูพร้าวด้วย ซึ่งพอดีกับที่ช่วงนั้นทางพระที่วัดกำลังเศษใบไม้ ก็เลยได้ช็อตสวยมาหนึ่งช็อต

ภาพที่ได้ต้องบอกจริงๆ ว่า สวยงาม  เราใช้การดึง Shadow -2  ให้ส่วนของ Contrast ลดลง ให้เราเก็บดีเทลของสนามหญ้าได้ด้วย แล้วก็ตัวของพระอุโบสถได้ชัดเจนขึ้น Hilight -2 เพื่อไม่ให้ Hilight มันหลุด เราก็เลยเล่นกับแสงแฟลร์ของพระอาทิตย์กับตัวกล้อง แล้วก็ให้ได้ภาพของพระที่กำลังกวาดพื้นอยู่ด้วย

อีกจุดคือมุมมหาชนของวัดภูพร้าว  เราไปวันธรรมดาคนน้อย ผมก็เลยเอาไฟ LED ไปวางในจุดของพื้นที่เรืองแสง แล้วก็นิมนต์เณรมารูปนึง ช่วยยืนเป็นแบบแล้วก็ตบแฟลชเข้าไปฉาบเบาๆ   ผมใช้เป็น Long exposure แล้วคอนโทรล ISO อยู่ประมาณ 400 จะเห็นว่าภาพที่ได้สีสันค่อนข้างสวยงาม ดีเทลของภาพมาค่อนข้างครบ    นอกจากถ่ายมุมมหาชนแล้วเรายังถ่ายดาวเหนือหมุนที่ด้านหน้าที่มีต้นไม้เรืองแสงด้วย

นิมนต์เณรมารูปนึง ช่วยยืนเป็นแบบแล้วก็ตบแฟลชเข้าไปฉาบเบาๆ   ผมใช้เป็น Long exposure แล้วคอนโทรล ISO อยู่ประมาณ 400 จะเห็นว่าภาพที่ได้สีสันค่อนข้างสวยงาม ดีเทลของภาพมาค่อนข้างครบ

เราแวะไปวัดพระธาตุหนองบัว ที่นี่จะมีพระธาตุองค์ใหญ่มาก แต่ว่าวันที่เรามาปัญหาที่เจอคือ มาตอนเช้าแต่พระธาตุไม่เปิดไฟฉะนั้นสิ่งที่เราทำเราต้องหาจุดที่สร้างจุดสนใจให้กับตัวพระธาตุขึ้นมารูปที่ถ่ายผมถ่ายโดยเอาฉากหน้าเป็นรูปพญานาคแล้วก็ฉากหลังเป็นพระธาตุ โดยใช้ Multi focus Mode เข้ามาช่วยเพื่อให้ภาพชัดทั้งภาพ    ระบบ Multi focus Mode จะทำการถ่ายภาพที่ละระยะชัดตั้งแต่ใกล้สุดถึงไกลสุดแล้วเรามาเลือกจุดชัดทีหลัง  จะเลือกความชัดจุดเดียวหรือหลายจุดก็ได้   กล้องจะรวมให้และยังเก็บต้นฉบับทั้งหมดทุกระยะชัดเอาไว้ด้วย  เผื่อจะไปโพรเซสที่คอมในภายหลัง    ระยะมันมีความต่างของตัวพระธาตุกับตัวพญานาคอยู่เยอะ ด้วยกล้อง X-A5 ตัวนี้ มีระบบ Multi focus Mode ซึ่งจะมาช่วยให้เราถ่ายภาพในหลายๆ รูปแล้วเอามารวมกัน โดยที่ภาพจะชัดทั้งข้างหน้าข้างหลัง ซึ่งภาพที่ออกมาได้เรียกว่าค่อนข้างโอเคเลย ทั้งเรื่องของระยะทั้งของความคมชัดทั้งภาพ

ใช้ Fujifilm X-A5 ทั้งทีก็ต้องถ่ายภาพเซลฟี่กันหน่อย ในโหมดของ Portrait ซึ่งจะเป็นระบบ Auto Face Focus ง่ายๆ เลยเนี้ย ก็คือ Flip หน้าจอขึ้น แล้วก็ยิงอย่างเดียว

ใช้ Fujifilm X-A5 ทั้งทีก็ต้องถ่ายภาพเซลฟี่กันหน่อย   ที่ริมแม่น้ำโขงมีต้นจามจุรียักษ์ จะเห็นว่าตัวต้นนี่ใหญ่มาก หน้าฝนน้ำก็จะขึ้นถ้าหน้าแล้ง น้ำก็จะลง ฉะนั้นเราก็จะเห็นพวกรากต้นไม้ด้วย  ซึ่งเป็นจุดดูแล้วน่าจะถ่ายอะไรได้ ต้องนี้ผมจะมาลองในโหมดของ Portrait ซึ่งจะเป็นระบบ Auto Face Focus ง่ายๆ เลยเนี้ย ก็คือ Flip หน้าจอขึ้น ปรับไปที่โหมด Portrait แล้วก็ยิงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญผมใช้เลนส์wide 10-24 ด้วยเพื่อให้เก็บฉากหลักได้ชัดเจนได้ครบมากขึ้นนะครับ

จุดเด่นของกล้องยังมีระบบ Timelapse Video ซึ่งหลังจากวันที่ผมได้กล้องมา ผมก็หาเวลาไปลองที่วัดอรุณฯ เพราะว่าช่วงแสงเปลี่ยนตอนเย็นที่นั่นจะสวยมาก ถ้าฟ้าระเบิด ซึ่งแผนของผมเองคือ อยากได้สัก 500 รูปแล้วมาทำ Timelapse หลังจากที่ผมไปตั้งกล้องก็สังเกตุแล้วว่า เนื่องจากพระอาทิตย์จะตกตรงวัดอรุณฯ พอดีก็เลยปรับในเรื่องของ Hilight ลงซัก -2 เพื่อคอนโทรลไม่ให้ในส่วนของ Hilight มันหลุดไป ในส่วนของ Color กับ Shapness ผมจะปรับขึ้นมาที่สุดเลยก็คือ +2 เนื่องจากผมเป็นคนที่ชอบภาพที่มีสีสันสดๆ

แล้วก็ Film simulation เป็น Velvia ส่วน White Balance ก็เป็นเป็น Kelvin ขึ้นมาให้ภาพสีตามที่ต้องการ จากนั้นก็ให้เริ่ม Timelapse ภาพที่ได้ต้องบอกเลยว่าชอบมากเพราะว่า เราไม่ต้องไปทำ Timelapse เพิ่มเติมหลังจากจบการถ่ายแล้ว เพราะว่ากล้องจะ Convert เป็นไฟล์วิดีโอให้โดยตรง น่าจะตอบโจทย์ช่างภาพ Landscape หลายๆ คนที่ชื่นชอบการถ่าย Timelapse ด้วยถ่ายบุคคลสวยๆ ไปพร้อมๆ กัน

จุดเด่นของกล้องยังมีระบบ Timelapse Video  เนื่องจากพระอาทิตย์จะตกตรงวัดอรุณฯ พอดีก็เลยปรับในเรื่องของ Hilight ลงซัก -2 Color กับ Shapness ผมจะปรับขึ้นมาที่สุดเลยก็คือ +2  Film simulation เป็น Velvia ส่วน White Balance ก็เป็นเป็น Kelvin จากนั้นก็ให้เริ่ม Timelapse ภาพที่ได้ต้องบอกเลยว่าชอบมาก

จากการใช้งาน Fujifilm X-A5  เป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือน   ต้องบอกเลยว่า ครั้งแรกคิดว่า Fujifilm X-A5  ว่ามันจะเหมือนกับ X-A3 ซึ่งเป็นกล้องฟุ้งฟริ้งหรือว่ากล้องสำหรับมือใหม่ แต่พอมาใช้งานแล้วก็รู้ว่ามันไม่ใช่ มันมีอะไรที่มากกว่านั้น โดยเฉพาะฟังชั่นเด่นๆ ที่มีเช่นในเรื่องของ Timelapse video กับเรื่องของ HDR Mode รวมที่ในส่วนของ Multi focus Mode ซึ่งทำให้ผมสามารถเก็บภาพบางภาพที่กล้องตัวแรกไม่มีได้ บางทีก็คิดเหมือนกันว่า อันนี้อาจจะเป็นกล้องตัวที่สองที่ผมจะมีไว้ใช้ สำหรับมือใหม่ก็อาจจะลองพิจารณาดูถ้าคุณอยากได้ภาพจริงจังด้วย ถ่ายคนสวยๆ ด้วย แนวท่องเที่ยวด้วย  Fujifilm X-A5  ตัวนี้ตอบโจทย์ครบเลย

สามารถแสดงความคิดเห็นที่มีต่อ FUJIFILM X-A5 ได้ที่

แสดงความเห็นได้ที่นี่

Related Posts